รวมเรื่องที่ควรรู้หากอยากเป็นโปรแกรมเมอร์หรืออยากเขียนโปรแกรมเป็น

Feb 1, 2022

อยากย้ายสายงานเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องทำอะไรบ้าง และต้องเตรียมตัวอย่างไร?

เมื่อนึกถึงอาชีพที่ต้องทำงานในยุคดิจิทัล มั่นใจได้เลยว่า อาชีพที่หลายคนนึกถึงย่อมมี “โปรแกรมเมอร์” รวมอยู่ด้วยแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นคนวางโครงสร้าง ออกแบบ และควบคุมเว็บไซต์ ซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชันบนระบบต่างๆ แล้ว โปรแกรมเมอร์ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเทคโนโลยีของธุรกิจใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, Tiktok, Shopee, Lazada, Netflix รวมไปถึง LinkedIn ที่เราใช้สมัครงานกันอยู่ทุกวันนี้ด้วย

หากใครกำลังมีความฝันอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ อยากเขียนโปรแกรมเป็น หรือยังไม่รู้ว่าอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องเรียนอะไร วันนี้ TechUp จะขอพาทุกคนที่สนใจไปรู้จักกับอาชีพนี้ให้มากขึ้นเอง ถ้าพร้อมแล้ว จับคีย์บอร์ด จับเมาส์ให้พร้อมแล้วค่อยๆ เลื่อนอ่านตามมาเลย

อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องทำอย่างไร - TechUp

เส้นทางสำหรับคนอยากเป็นโปรแกรมเมอร์

อาชีพโปรแกรมเมอร์ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพสำคัญที่ทุกบริษัทที่ต้องการจะปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลต้องมี ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้วางโครงสร้าง ควบคุม และออกแบบเว็บไซต์ รวมไปถึงเทคโนโลยีต่างๆ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว โปรแกรมเมอร์ยังเป็นหนึ่งในผู้สร้างสรรค์ที่ทำให้การออกแบบในส่วนต่างๆ ของทุกทีมและการเขียนเนื้อหาของทีมคอนเทนต์เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดตามที่นักวิเคราะห์ได้วางแผนไว้

แต่อย่างไรก็ดี อาชีพโปรแกรมเมอร์ก็ยังเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่คนรู้จักรายละเอียดน้อยมาก และเข้าใจไปว่าการทำงานในอาชีพนี้จำเป็นต้องใช้ปริญญาตรงสาขา รวมถึงใช้เงินและเวลาจำนวนมากในการหาความรู้เพิ่มเติม แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาชีพนี้จะเป็นอย่างไร ตามมาไขข้อสงสัยไปกับ 3 คำถามที่หลายคนมักสงสัยเกี่ยวกับอาชีพโปรแกรมเมอร์กันได้เลย

1. อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องเริ่มต้นอย่างไร?

การเริ่มต้นสายงานโปรแกรมเมอร์นั้นไม่ต่างอะไรกับการเลือกเรียนคณะในมหาลัย ซึ่งหากใครอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือ อยากเขียนโปรแกรมเป็น สิ่งแรกที่ต้องถามตัวเองให้ดีก็คือ

  • “เราอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ทำไม”
  • “การเป็นโปรแกรมเมอร์มีหลายเรื่องที่ต้องเข้าใจ เราพร้อมไหม”
  • “โปรแกรมเมอร์เป็นอาชีพที่ตอบโจทย์ชีวิตของเราจริงหรือไม่”

ซึ่งนอกเหนือจากทั้ง 3 คำถามนี้ เราก็อาจจะลองศึกษาข้อมูลการทำงานของโปรแกรมเมอร์สักพักและลองดูว่างานประเภทนี้ตอบโจทย์เรามากน้อยแค่ไหนก็ได้เช่นกัน ซึ่งทั้งคำถามหรือการศึกษาข้อมูลนี้จะช่วยทำให้เราพิจารณาถึงความต้องการตัวเอง รวมถึงเป็นการตั้งเป้าหมายในการเรียนรู้อีกด้วย เพราะลองคิดดูง่ายๆ หากเราไม่มีเป้าหมายในการทำอะไรสักอย่าง นานวันเข้าก็อาจล้มเลิกความตั้งใจไปเลยก็ได้

2. ไม่ได้จบตรงสาย เป็นโปรแกรมเมอร์ได้ไหม?

อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับอาชีพนี้ที่หลายคนคงเคยได้ยิน คือ “เป็นโปรแกรมเมอร์ต้องเรียนอะไรบ้าง” หรือ “อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องเรียนอะไร” หรือ “ไม่ได้จบสายคอมฯ มา เป็นโปรแกรมเมอร์ได้ไหม” คำตอบก็คือ ตราบใดที่เรามี Technical Skills และทักษะการทำงานเป็นทีมครบถ้วน ก็สามารถเข้ามาทำงานสายนี้ได้ ไม่ว่าจะมีใบปริญญามาจากสายไหน หรือไม่มีใบปริญญามาเลยก็ตาม จริงอยู่ว่า โปรแกรมเมอร์ส่วนใหญ่มักเรียนจบด้านคอมพิวเตอร์มาโดยตรง แต่ในโลกการทำงานจริงแล้ว ต่อให้ไม่ได้จบปริญญาสายคอมพิวเตอร์ วิศวะ หรือแม้แต่ไม่มีใบปริญญาก็สามารถฝึกทักษะต่างๆ เหล่านี้ และสอบ Techincal Test ต่างๆ เพื่อไปเป็นโปรแกรมเมอร์ในบริษัทชั้นนำได้เช่นกัน

3. เป็นโปรแกรมเมอร์จะมีเงินเดือนเยอะเหมือนที่เข้าใจไหม?

เมื่อพูดถึงการเป็นโปรแกรมเมอร์ เงินเดือนย่อมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนนึกถึง เนื่องจากมีเนื้องานที่ยาก ซับซ้อน และเต็มไปด้วยรายละเอียด แต่การจะตอบได้ว่าเป็นโปรแกรมเมอร์นั้นได้เงินเดือนเยอะไหมนั้น ต้องพิจารณาจากความสามารถในการทำงานทั้งหมดร่วมกัน เช่น ความสามารถในการรับผิดชอบงาน การสื่อสารภาษาอังกฤษ ทักษะการบริหารโปรเจกต์ และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ความรวดเร็วในการทำงานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กำหนดเงินเดือนในหลายๆ ที่ทำงานเช่นกัน ซึ่งลองคิดดูง่ายๆ โปรแกรมเมอร์เป็นคนที่ต้องใช้สมองแปลงคำพูดและทุกอย่างให้เป็นโค้ด ดังนั้น หากยิ่งคิดวิเคราะห์ได้เก่ง แปลงโจทย์จากสถานการณ์จริงเป็นโค้ดได้ และมีความสามารถในการใช้เครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะมีโอกาสในการก้าวหน้าก็สูง ซึ่งการพัฒนาทักษะเหล่านี้ก็ต้องเริ่มต้นจากการฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์เช่นกัน

อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ฝึกอย่างไร - TechUp

จะฝึกตัวเองให้เป็นโปรแกรมเมอร์ได้อย่างไร

การเป็นโปรแกรมเมอร์ไม่ได้ยากหรือง่ายอย่างที่คิด หากลองถามตัวเองและพิจารณาปัจจัยต่างๆ แล้ว และพบว่าอยากเดินไปสายโปรแกรมเมอร์ต่อ เราก็สามารถฝึกตัวเองได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ลองเลือกแพลตฟอร์มที่ชอบมาศึกษาก่อน
    หลายคนอาจมองว่า การเลือกภาษาในการเขียนโปรแกรมเป็นเรื่องแรกที่ต้องทำ แต่สำหรับมือใหม่ที่อยากเขียนโปรแกรมเป็น สิ่งแรกที่ควรทำ คือ หาแพลตฟอร์มหรือเทคโนโลยีที่ตัวเองชอบ จากนั้นจึงดูภาษาของเทคโนโลยีที่สนใจและค่อยทำการศึกษาทีหลัง ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยทำให้เราเห็นภาพและศึกษารายละเอียดอื่นๆ บน “ความอยากรู้” ซึ่งความอยากรู้นี่แหละจะช่วยทำให้เราไปต่อและพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
  2. ลองตั้งโจทย์เอง
    หากเจอแพลตฟอร์มหรือเทคโนโลยีไหนที่น่าสนใจ ลองมาตั้งคำถามเล็กๆ ว่า เทคโนโลยีนั้นๆ ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างไร มีเรื่องอะไรที่ดี มีเรื่องอะไรที่ต้องพัฒนา จากนั้นจึงค่อยๆ ลองตั้งโจทย์จากสิ่งที่พบว่า “ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไรให้แพลตฟอร์มนี้ดียิ่งขึ้น ตอบโจทย์ยิ่งขึ้น และพัฒนาไปในทิศทางไหนบ้าง” ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยทำให้เราวางแผนการเขียนโปรแกรมได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. ศึกษา ทดลองภาษา และเลือกเครื่องมือ
    ทีนี้ก็ถึงการเริ่มลงมือทำ! โดยการเป็นโปรแกรมเมอร์นั้นจำเป็นต้องใช้เลือกใช้ภาษาในการเขียน โค้ดให้เหมาะสมกับงานมากที่สุด โดยการเลือกภาษาสามารถทำได้ง่ายๆ ตั้งแต่เลือกจากความชอบ ความถนัด ไปจนถึงความต้องการของตลาด รวมไปถึงความต้องการเรียนรู้ของตัวเอง และเมื่อเลือกภาษาเรียบร้อยแล้วก็ค่อยเลือกเครื่องมือ Database และเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น
  4. ฝึกเขียนไปเรื่อย ๆ
    หากอยากรู้ว่าโปรแกรมเมอร์ต้องมีคุณสมบัติอะไร มั่นใจได้ว่าคุณสมบัติที่โปรแกรมเมอร์ทุกคนต้องมี คือ “ความขยัน” “ความอดทน” และ “ความพยายาม” ในการฝึกและเรียนรู้ เพราะอย่าลืมว่าการเขียนโค้ดและสร้างโปรแกรมย่อมมี Error เกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งหากยิ่งพบ Error มากเท่าไหร่ก็ต้องยิ่งใจเย็นและแก้ไขมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น การฝึกไปเรื่อยๆ นี้จะช่วยทำให้เราลดข้อผิดพลาดของตัวเองและได้เรียนรู้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

โปรแกรมเมอร์ที่ตลาดต้องการมีคุณสมบัติอย่างไร?

หากสงสัยว่าเรียนโปรแกรมเมอร์แล้วจบมาทํางานอะไรได้บ้าง บอกได้เลยว่าตลาดงานของโปรแกรมเมอร์นั้นเปิดกว้างตั้งแต่สาย Data Analyst ไปจนถึง Software Developer และ Software Engineer โดยทักษะที่จำเป็นจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดของสายงานนั้น แต่ที่สำคัญ คุณสมบัติของโปรแกรมเมอร์ที่ตลาดต้องการไม่ได้มีแค่ความสามารถในการเขียนโค้ดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องมีคุณสมบัติอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น

  1. ความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์โจทย์และแก้ไขปัญหา
  2. สกิลภาษาอังกฤษ เพราะอย่าลืมว่าการสื่อสารและเรียนรู้จากแหล่งออนไลน์เพื่อต่อยอดทักษะตัวเอง จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษทั้งสิ้น
  3. สกิลการทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยส่วนใหญ่แล้ว โปรแกรมเมอร์จะทำงานร่วมกันเป็นทีม อีกทั้งยังต้องประสานงานกับทีมอื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์งานร่วมกัน ดังนั้น หากเรามีความรู้แน่นแต่สื่อสารออกไปให้ผู้อื่นเข้าใจไม่ได้ งานก็จะเดินหน้าไม่ได้เช่นกัน
  4. ความสามารถในการบริหารโปรเจกต์ เพื่อให้งานทุกอย่างลุล่วงไปได้

จะเห็นได้ว่าการเป็นโปรแกรมเมอร์นั้นไม่ได้มีแค่การเขียนโค้ดเหมือนที่หลายคนเข้าใจ และถ้าหากเลือกเส้นทางให้ดี การอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ก็ไม่ได้ต้องใช้ค่าใช้จ่ายหรือเวลามากเกินเหมือนที่หลายคนคิดด้วย

และสำหรับคนมีฝันที่อยากเขียนโปรแกรมเป็นเพื่อพัฒนาต่อไปเป็นโปรแกรมเมอร์ หรืออยากย้ายสายงานเป็น Software Developer หรือ Software Engineer ในอนาคต นอกจากจะหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเองแล้ว ทุกคนยังสามารถเข้ามาทำอาชีพนี้ได้อย่างรวดเร็วผ่านการเรียนใน Bootcamp เช่นคอร์สของ TechUp ซึ่งใช้หลักสูตรที่สอนครบทุกทักษะ สามารถปั้นผู้ที่ไม่มีพื้นฐานให้กลายเป็นโปรแกรมเมอร์คุณภาพ เข้าทำงานในบริษัทชั้นนำได้ภายใน 4 เดือน พร้อมช่วยฝึกให้ “ทำงานเป็น” และหางานให้ทำได้หลังเรียนจบ โดยสามารถเริ่มเรียนได้โดยจ่ายค่าแรกเข้าแค่ 4,000 บาท จ่ายระหว่างเรียน 4,000 บาท และจ่ายที่เหลือหลังเรียนจบและได้งานแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าคุณจะพัฒนาตัวเองให้เป็นโปรแกรมเมอร์คุณภาพดีมีคุณสมบัติครบถ้วนได้อย่างไร ดูรายละเอียดของหลักสูตรเราได้เลยที่นี่

บทความอื่น ๆ

ภาษา HTML คืออะไร? เรื่องจำเป็นที่นักพัฒนาเว็บทุกคนห้ามมองข้าม

May 1, 2022

รู้จักกับ Web Developer อาชีพยอดฮิตสายไอที เขาคือใคร ต้องรู้อะไรบ้าง

Apr 1, 2022

มารู้จักกับ JavaScript ภาษาสารพัดประโยชน์แห่งโลกนักพัฒนาซอฟต์แวร์

Mar 1, 2022

elements register background

พร้อมจะเริ่มย้ายมาทำงาน สาย TECH แล้วหรือยัง?

สมัครเรียนเลย
teacher is teching how to code
TechUp

ก้าวสู่สายงาน Software และ Data
ด้วยคอร์สและคอมมูนิตี้ที่สนับสนุนคุณตลอดเส้นทาง

© Copyright 2024 TechUp Training Company Limited

ข้อมูลเพิ่มเติม
นโยบาย
Social Media

© Copyright 2024 TechUp Training Company Limited